ย้ำเตือนให้หวนนึกถึงความสำคัญของหลาย ๆ สิ่งที่ผ่านเข้ามา
แล้วผ่านไป ฝากไว้แต่รอยเลือนแห่งความทรงจำฝังใจ
ทั้งจากคนรอบข้าง เพื่อนพ้อง พี่น้องร่วมสายเลือด
รวมถึงบุคคลที่ได้จากไปแล้ว
ซึ่งเหล่านี้ล้วนสร้างภาพพิมพ์ประทับอยู่ในใจมิรู้ลืม
ต่างต้องพลัดพราก ลาจากกันไปตามวาระและหน้าที่ของแต่ละคน
แต่สิ่งหนึ่งที่รับรู้อยู่เสมอ
เสมือนว่าบุคคลเหล่านั้นไม่เคยห่างหาย
ไปไหนไกลและยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง
ความผูกพันนั้นกลับยิ่งทวีคูณ
ห้วงเวลาช่วยประติดประต่อภาพที่ได้อยู่ร่วมกันอย่างสมบูรณ์
เมื่อย้อนกลับไปหวนรำลึกถึงวันที่ล่วงพ้นเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม ก็อาจหลงลืมอะไรบางอย่าง !
ทันทีที่ได้หยุดคิดทบทวน
จึงได้เรียนรู้ว่า : เราจะรู้ค่าของสิ่งที่เสียไป
ก็ต่อเมื่อมันไม่มีวันกลับคืนมาได้อีก
เช่นเดียวกันกับร่างกาย
สุขภาพของเรา ทำงานหักโหม เที่ยวดื่มเป็นอาจิณ พักผ่อนไม่เพียงพอ
ไม่ห่วงใย ดูแล ทะนุถนอมสุขภาพของตนเอง
กลับต้องมารักษาตัวอีกทีในวันที่โรคภัยเบียดเบียนแล้วอย่างนั้นหรือ ?
ซึ่งนั่นสายเกินไปเสียแล้ว และนับเป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างยิ่ง
ที่ว่าเรานั้นมักจะรู้ว่ามีบางสิ่งอยู่ ก็ต่อเมื่อมันได้หายไปแล้ว
ถึงจะร่ำร้อง โอดครวญ ให้กลับมาก็ไม่เป็นผล
จะมีใครบ้างเล่า ? ลิ้มรสความหมายนี้ได้อย่างแท้จริง เว้นเสียแต่ผู้สูญเสียเอง
แล้วสิ่งใดบ้างเล่า ? ที่เราได้ทำหล่นหายไปบ้างในช่วงวัยของชีวิตที่ดำเนินมา
เรื่องไหนบ้างเล่า ? สำหรับคำว่า "เสียดาย" ซ้ำซากที่ไม่สิ้นสุด
จากการไม่เห็นคุณค่าและิแน่นอนที่สุด
จากการไม่เห็นคุณค่าและิแน่นอนที่สุด
สิ่งสำคัญ คนสำคัญ ของรักของหวง กล่องดวงใจ ย่อมมีไม่มากนักหรอก
(ยิ่งโตขึ้นมากเท่าไหร่ ยิ่งมีน้อยลง จนอาจจะไม่มีเลย !)
หากยังละเลยปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
ไม่แน่ว่าเขาเหล่านั้น ยังไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยแม้แต่น้อย
ทั้งหมดนี้ผู้เขียนต้องการให้ฉุกคิดสักเล็กน้อยถึงสิ่งเล็ก ๆ ที่สร้างโลกใบนี้
และพึงตระหนักว่าสิ่งสำคัญรอบตัวที่มีสายโยงใยสัมพันธ์กับเรา
วันใด วันหนึ่ง สิ่งหนึ่ง สิ่งใดนั้น ๆ อาจสูญหายได้
นั่นย่อมเป็นสัญญาณเตือนที่ดี
อันว่าเรานั้นจะได้เหลียวมองดูข้าง ๆ กาย
ว่ามีสิ่งใดไหนบ้าง อันควรแก่เก็บรักษาไว้ตราบนานเท่านาน
แด่... กัลยาณมิตรร่วมเส้นทางชีวิต
(ขอบคุณ) หลายชีวิตที่มีส่วนสร้างชีวิตนี้ขึ้น
No comments:
Post a Comment