18.12.11

:: กาลเวลากลืนกินทุกสรรพสิ่ง ::


   หลายชั่วโมงที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้ไปทำธุระในสถานที่แห่งหนึ่ง จึงต้องมีความจำเป็นต้องใช้บริการรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ(รถตู้โดยสารประจำทาง)


   เป็นโอกาสดีที่จะได้พบเจอกับบุคคลอื่น ๆ ที่ต้องใช้บริการรถโดยสารเช่นเดียวกัน...
นั่นจึงทำให้ "เรื่องสนุก" คิดเรื่องนี้เกิดขึ้นมาและได้นำมาเล่าสู่กันฟัง
เมื่อบุคคลแต่ละคนมาเจอะเจอกันโดยบังเอิญ (อาจจะไม่บังเอิญเพราะมีธุระหน้าที่ของแต่ละคนเป็นเสมือนแส้ที่คอยไล่ต้อนให้กระทำอยู่เสมอ)แต่นั่นเป็นเรื่องที่จะต้องไปจัดการของแต่ละบุคคล

   ประเด็นสำคัญอยู่ที่เมื่อคนหลาย ๆ คนมารวมกันในรถโดยสารคันเดียวกันบนพื้นที่แคบ ๆ เราจะเรียกว่านี่คือ "สังคม" ได้หรือไม่ (คงจะได้ เพราะการจะเป็นสังคมได้นั้นจำต้องมีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมาอยู่รวมกัน) แม้จะไม่มีปฏิสัมพันธ์ในเชิงพูดคุยระหว่างกันก็ตาม
   และแต่ละคนที่มาอยู่ ณ ที่แห่งนี้(รถตู้โดยสารประจำทาง)ต่างมีที่มาแตกต่างกันออกไป ต่างกรรมต่างวาระ ต่างหน้าที่ ต่างจิตต่างใจ มาจากร้อยพ่อพันแม่ แต่ที่น่าสนใจเป็นพิเศษ คือ เมื่อลองคิดให้มันดูสนุกหรรษาหน่อยจะเห็นได้ว่า เพราะความหลายหลายนี้เอง จึงเกิดเป็นเรื่องราวขึ้นมาในสถานการณ์นั้น ๆ เป็นต้นว่า

- แต่ละคนมีภูมิหลัง ประสบการณ์ ความคิด ทัศนคติและการมองโลกอย่างไร ?

- พื้นหลังของลำดับเหตุการณ์ในชีวิตของแต่ละบุคคลเป็นอย่างไร ? (ทำไมเขาถึงแสดงสีหน้าเช่นนี้ กระทำกิริยาเช่นนี้ เมื่อเจอกับเหตุการณ์อย่างนั้น) เพราะก่อนที่ใครคนนึงจะตัดสินผู้ใด สิ่งสำคัญที่สุด คือ การรู้ปมหลังอดีตของเขาคนนั้น เพราะนั้นคือการทำความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตของเขาที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของเขาในปัจจุบันด้วย(ลองเข้าไปเป็นเขา แล้วคุณจะเข้าใจชีวิตของใครคนนั้นดีขึ้น ก่อนที่จะตัดสินพิพากษาใครคนนั้นด้วยสายตาเปล่าแบบไม่ยุติธรรมนัก)

- ก่อนหน้าเหตุการณ์ที่เขาคนนั้นจะขึ้นมาบนรถโดยสาร เขาได้ไปพบเจอกับเรื่องราวอะไรบ้าง(มันเป็นเรื่องน่าคิดสนุก ๆ คงจะไม่ได้เข้าไปยุ่งยากกับชีวิตผู้อื่นจนเกินไป)

- ขณะที่รถกำลังวิ่งมุ่งตรงไปทางข้างหน้าของถนน สายตาของเขาปราดมองอะไรอยู่ ? และกำัลังคิดเรื่องอะไร ?

   ทั้งหมดนี้คงเป็นคำถามเชิงจิปาถะ ไร้แก่นสารสำหรับบางคน แต่สำหรับข้าพเจ้ามักใช้ถามตัวเองระหว่างใช้เวลาไปกับการเดินทางและพยายามสังเกตพฤติกรรมของแต่ละคนโดยปราศจากอคติส่วนตัวและการนำความคิดเห็นส่วนตัวของตัวเองไปป้ายสีแก่พวกเขาเหล่านั้นให้น้อยที่สุด(คงเพราะ "เรา" ในที่นี้หมายถึงทุกคน ต้องอาศัยอยู่ร่วมกันในสังคมกว้างแห่งนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แม้ในบางชั่วขณะอาจรู้สึกไม่สบอารมณ์นักกับสิ่งที่ผู้อื่นได้แสดงออกมา แต่คงจะดีไม่น้อยถ้าคน ๆ นึงพยายามเข้าใจและตระหนักถึงการอยู่ร่วมกันโดยสันติสุข มองเห็นและเข้าใจความต้องการของอีกฝ่ายที่แสดงออกมาว่าสิ่งนั้น เรื่องนั้นมาจากเหตุผล ตรรกะ หลักคิดอะไร)

   เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์เสี้ยวเล็ก ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตประจำวัน มีเรื่องราวอีกมากมายหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา รวมถึงคนอื่น ๆ รอบข้าง แต่เรามักจะเลือกให้เหตุการณ์อื่นที่สำคัญกว่า เพราะทุกคนล้วนให้คุณค่าและความสำคัญของแต่ละเรื่องไม่เท่ากัน
เหตุการณ์สำรวจตัวละคร(โดยอาจจะรู้ตัวหรือไม่ก็ได้ แต่พยายามให้บุคคลที่เรามองอยู่รู้ตัวน้อยที่สุดและควรมองด้วยสายตาอย่างเป็นมิตร ไม่จ้องเขม็งจนเสียมารยาท เก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้)ที่ผ่านเข้ามาในแต่ละวัน ๆ หนึ่ง ครั้งนี้...ข้าพเจ้าพลันนึกถึงเหตุการณ์หนึ่งที่คล้ายคลึงกัน นั่นก็คือ การนั่งเรียนหนังสืออยู่ในห้องเรียน นึกภาพตามว่าเมื่อคุณนั่งโต๊ะแถวแรก(หน้าสุด) คุณจะไม่มีโอกาสได้เห็นเพื่อน ๆ นักเรียนทุกคนในห้องเช่นเดียวกับคนที่นั่งอยู่หลังห้องมองเห็นภาพเพื่อนนักเรียนทุกคนอย่างละเอียดครบถ้วน นั่นจึงทำให้นักเรียนหลังห้องคิดอีกอย่างนึง เด็กหน้าห้องมีความคิดอีกแบบนึง เราแต่ละคนจึงมีมุมมองของตัวเอง และสำคัญอย่างยิ่งว่าเราจะเลือกมองมุมไหน





No comments:

Post a Comment