14.12.11

:: ฝันกลางวัน ::


เหตุใดชีวิตจึงไม่เหมือนดังละครหลังข่าว...

ประการแรก นั่นเพราะฉากสุดท้ายของชีวิตไม่เหมือนดังละครที่มีฉากจบท้ายเรื่องแบบเอาใจผู้ชม

ประการที่สอง นั่นเพราะชีวิตจริงเราไม่สามารถเลือกบทบาทอย่างใด อย่างหนึ่งเหมือนเช่นตัวละครในเรื่องนั้น  ๆ นั้น แต่ในบางครั้งอาจเป็นเทวดา นักบวช ใจบุญ ในเวลาต่อมาอาจแปรเปลี่ยนเป็นซาตาน จอมมาร ตัวร้ายได้เช่นเดียวกัน

ประการที่สาม นั่นเพราะในฉากละครหลังข่าวบู๊ล้างผลาญ สาดกระสุนเกลื่อนกราด สนั่นจอ แต่ในชีวิตจริงเลือดและพลังงานของร่างกายเรามีจำกัด ไม่สามารถเล่นบทอัศวินควงปืนได้ตลอดทั้งเรื่อง

ประการที่สี่ นั่นเพราะชีวิตจริงไม่มีปาฏิหารย์(เชื่อว่าไม่มี)นอกจากจะลงมือสร้างมันขึ้นมาเอง แต่ในหลาย ๆ เรื่องมีเทวดาเล่นกลคอยเป็นผู้ช่วยสร้างอภินิหารให้แก่ผู้ที่ทำความดี คุ้มครองผู้กระทำความดีจากเหล่าร้ายทั้งปวง


ประการที่ห้า นั่นเพราะชีวิตจริงไม่มีทางลัด ทุกสิ่งอย่างเริ่มต้นจากศูนย์ สู่หนึ่ง สองและสามตามลำดับ ไม่มีข้ามขั้น ไม่สามารถถ่ายทอดวิทยายุทธิ์อันแก่กล้าจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งให้แก่กันได้(อย่างในหนังจีนกำลังภายใน)

ประการที่หก นั่นเพราะชีวิตจริงเราต้องอาหาร น้ำดื่ม การพักผ่อนนอนหลับที่เพียงพอ เพราะเรามิใช่ยอดมนุษย์ ? เหมือนในภาพยนตร์อิงวิทยาศาสตร์ นิยายเหนือธรรมชาติ และขบวนการกอบกู้โลกทั้งหลายแหล่

ประการที่เจ็ด นั่นเพราะชีวิตจริง คุณไม่สามารถแก้ไขกับเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดใด ๆ ของคุณได้ หลังจากที่คุณไม่อยู่แล้ว ! แต่ในละคร บทบาทที่ตัวละครได้รับในเรื่องจะถูกกล่าวถึงแม้ว่าจะไม่อยู่แล้วก็ตาม(คุณอาจจะถูกกล่าวถึงบ้างอาจจะเป็นเรื่องดี ๆ หรือความชั่วที่คุณได้กระทำไว้กับผู้อื่น)

ประการที่แปด นั่นเพราะในชีวิตจริงฉากของความสำเร็จ หัวเราะ ดีใจ ไปจนถึงร้องไห้ เสียใจ ผิดหวัง โศกเศร้าเคล้าน้ำตา ย่อมจะไม่มีเสียงดนตรี ไตเติ้ลอลังการบรรเลงประกอบฉากนำเรื่องให้คุณอย่างในละคร

ประการที่เก้า ในละครทุกเรื่อง ตัวละครที่ดำเนินอยู่ในเรื่องจะไม่มีวันแก่ชรา แม้จะกลับมาดูอีกกี่ครั้ง ๆ ก็ตาม ก็ยังจะคงหนุ่มสาวเสมอในความทรงจำของคุณ ตรงกันข้ามกลับเป็นคุณที่อายุมากขึ้นเมื่อชีวิตดำเนินมา

ประการที่สิบ นั่นเพราะตัวละครที่สวมบทบาทในเรื่องนั้น เราสามารถเดาเรื่องได้ (บางเรื่องอาจหักมุมตอนท้าย) ว่าอยู่ในบทของฝ่ายอธรรม ปีศาจ ตัวร้าย ไปจนกระทั่งแม่พระ นักบวชใจบุญ มีเมตตาซึ่งสามารถแยกออกได้อย่างชัดเจน ซึ่งตรงกับข้ามอย่างสิ้นเชิงกับชีวิตจริง ที่เป็นเพียงสมมุติฐานบางประการจากการถอดความแตกต่างระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและโลกอุดมคติอันสามารถพบเห็นได้จากในบทละคร ภาพยนตร์ อิงวิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่สร้างมาจากเรื่องจริงบ้าง นวนิยาย นิทานบ้างก็ตามแต่ แต่กระนั้นก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจรับชมสิ่งเริงรมย์เหล่านี้ เพื่อความสนุกสนาน บันเทิงใจ เป็นการผ่อนคลายจากชีวิตอันแสนยุ่งเหยิงในชีวิตประจำวันของพวกเขาเหล่านั้น โดยหันหน้าเข้าสู่โลกอุดมคติ เสพอารมณ์ของตัวละครในเรื่องราวกับว่ามีอยู่ในชีวิตจริง


อาจเป็นความจริงที่ว่า...
ชีวิตในบางครั้ง 
ความอยุติธรรมก็คล้ายเป็นเรื่องถูกต้อง 
ความเจ็บปวดก็คล้ายเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง 
ความเสียเปรียบก็อาจถูกยัดเยียดให้ 
ความพ่ายแพ้ก็อาจเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดฝัน 
คนที่เข้มแข็งเท่านั้นจึงจะสามารถทนรับเอาไว้ได้ 
เพื่อที่จะกอบกู้ทุกอย่างกลับคืนมา

No comments:

Post a Comment