17.3.12

เคยไหม ? ซึ้งจนน้ำตาไหลขอแชร์นะคะ ..


หลายคนคงเคยตั้งคำถามหรืออาจจะเคยอุทานคำพูดแบบนี้ นั่นคือคำว่า "เคยมั้ย" เช่น.. เคยมั้ย...บางทีจำเรื่องนั้นได้เมื่อไม่ได้คิดจะต้องการจะรู้ เคยมั้ย...เปิดหนังสือดูประโยคที่เคยขีดเสันใต้เอาไว้แต่เมื่อกลับไปเปิดหาดูอีกครั้งก็หาไม่เจอ เคยมั้ย...ลืมเรื่องสำคัญไปเสียฉิบจนมานึกได้อีกทีเมื่อเวลาที่ไม่ได้สำคัญอะไำรอีกต่อไป เคยมั้ย...คิดเรื่องดีๆไ้ด้แต่กลับลืมเมื่อจะจดบันทึกลงสมุดโน้ตซะงั้น เคยมั้ย..เรื่องที่อยากลืมกลับจำและเรื่องที่อยากจำกลับลืม? เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นสถานะยอดฮิตบนเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ต่าง ๆ นานาของเหล่าสมาคมคนโสด คนน่าตาดี คนน่ารักแห่งประเทศไทย สมาคมคนรักสาวแว่นแห่งประเทศไทย คนอกหัก หนุ่มหล่อ สาวฮอต เด๊อะแก๊งค์ ฯลฯ ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนบนสังคมออนไลน์ทุกชนิด ซึ่งมีหลายประโยคที่ถูกอกถูกใจจนซึ้งแทบน้ำหู น้ำตาไหลจนต้องขอแชร์นะค่ะกันไปหลายรายเลยทีเดียว ทั้งมาจากประสบการณ์โดยตรงของผู้ที่ประสบพบเจอกับตัวเองหรือไม่ก็เป็นเรื่องผู้อื่นรอบข้าง เป็นต้นว่า..

เคยมั้ย? โดนคนที่เราชอบ ,, มาปรึกษาปัญหาหัวใจ »» เพื่อไปใช้กับใครบางคน! / มุขเสี่ยว เกี้ยวสาว
เคยไหม..? “สมัยม.ปลาย”ถึงไม่ได้ทำผิดอะไร..แต่ก็”เกลียด”อาจารย์ ฝ่ายปกครอง..!?! / หญิงมือหนึ่ง กรุงโซล
เคยมั้ย ?… เปิด ” facebook ” ไว้ตลอดเวลา > ทั้งๆที่ไม่มี ความคืบหน้าอะไรเลย / สมาคมจี๊ด คำนี้เชยเชย
เคยมั๊ย . . . . มี ‘แฟน’ แล้ว “รู้สึก เหงา” แต่พอมี ‘เขา’ แล้ว “รู้สึก ดี” !?! / สมาคมกะล่อนแห่งประเทศไทย
เคยไหม? พิมข้อความตั้งยาว แต่ ” ลืม ” เปลี่ยนภาษา ><* / สมาคมคนเหงาแต่ไม่โสด
เคยไหม !! ไม่กล้าเปิดใจ เพราะ หวังว่าใครบางคน “จะกลับมา” / คำคมๆของคนคันๆ
เคยไหม? ” เธอ ” เขียน ” สเตตัส ” ทีไร นึกว่าเธอ ” เขียนถึงเรา ” ทุกที (>_<) / เคยไหม?
เคยไหม? หลังจากที่ได้ยินคำว่า ” เป็นเพื่อนกันเถอะ ” 1% เป็นเพื่อนกัน99% ไม่คุยกันอีกเลย !!! ><* / เคยไหม?
เคยไหม? เห็นเขา ” โพส ” ข้อความ ” เศร้า ๆ ” เราก็ ” เศร้าตาม ” ไปด้วย ToT / เคยไหม?
เคยไหม? ” ฝืนยิ้ม ” ทั้งๆที่ในใจ ” ร้องไห้ ” ไปแล้ว ToT / เคยไหม?
เคยไหม? เธอบอก ” ไม่ได้เป็นอะไร ” แต่เราก็ ” อดเป็นห่วง ” ไม่ได้อยู่ดี (>_<) / เคยไหม?
เคยไหม? อยากจะ ” เริ่มใหม่กับใครซักคน ” แต่ ” กลัว ” สุดท้ายก็ ” จบแบบเดิม ” ToT / เคยไหม?
เคยไหม? ” คิดถึง” แทบตายแต่พอเจอก็ ” เฉยๆ ” >< / เคยไหม?
เคยไหม? ดูแล ” อย่างก่ะแฟน ” แต่ได้ใช้คำแค่คำว่า ” เพื่อน ” / เคยไหม?
เคยไหม? รู้สึก ” งอน ” ที่เค้า…ไปทักคนอื่น ที่ ” ไม่ใช่เรา ” >< / เคยไหม?
เคยไหม? คนที่คุณรักที่ กลับทำให้คุณเสียใจมากที่สุด :’( / เคยไหม?
เคยไหม? ทำดี ” กับเธอ ” แล้วไม่หวังอะไร แต่ในใจจิงๆ กลับ ” ตรงข้ามกันเลย ” / เคยไหม?
เคยไหม? ” เเอบรัก ” คนๆนึงจนทำให้เรา ” เจ็บ ” จนถึงทุกวันนี้ / เคยไหม?
เคยไหม? อกหัก ทั้งๆที่ ” ยัง โสด ” !!! / เคยไหม?
เคยไหม? ” ไม่เคยโพสต์ ” ไม่เคยทัก ไม่เคยถาม แต่ ” ติดตาม ” ทุกข้อความ ของความเคลื่อนไหว ><* ♥ ♥ / เคยไหม?
เคยไหม? อยากให้ ” คนที่แอบชอบ ” มา ” กดไลค์ ” ให้เรา ” นานๆครั้ง ” ก็ยังดี ^____^ / เคยไหม?
เคยไหม? ” โดนเธอ ” ให้ ” ความหวัง ” ทั้งๆที่เธอมีคนนั้นอยู่แล้ว >< / เคยไหม?

และจากความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นำไปสู่วิวาทะอันก่อให้เกิด"ศัพท์" และ "สำนวน" ใหม่ๆ ในทาง "การเมืองวัฒนธรรม" ขึ้นเป็นจำนวนมาก

จึงมีผู้จัดทำเว็บไซต์-เพจเฟซบุ๊ก "พจนานุกรมศัพท์การเมืองไทยร่วมสมัย" ขึ้นมา (http://www.facebook.com/thaipolitionary และhttp://thaipolitionary.com/) เพื่อรวบรวมประมวลศัพท์-สำนวนเหล่านั้นอย่างเป็นระบบ ผสมผสานอารมณ์ขันเชิงจิกกัดรสชาติแสบๆ คันๆ


และนี่คือตัวอย่างบางส่วนของศัพท์-สำนวนการเมืองไทยยุคทศวรรษ 2550 ที่ไ้ด้รับความนิยมจากเว็บไซต์พจนานุกรมศัพท์การเมืองไทยร่วมสมัย ซึ่งส่วนตัวมองว่าบางประโยค(ย้ำ) เป็นเพียงวิวาทะทางการเมืองที่ใช้โต้ตอบคู่แข็งตรงข้ามทางการเมืองเท่านั้น โดยที่ยังไม่มีการใช้อย่างแพร่หลายในสังคม จะใช้กันก็แต่กลุ่มคนจำนวนเล็ก ๆ จึงเป็นคำกล่าว วิาทะเพียงสั้นๆ เกิดขึ้นครั้งเดียว บางคำอาจจะไม่ถูกนำมาใช้อีกก็ได้เพราะเป็นคำที่สามัญธรรมดาทั่วไปใช้กัน แต่จะมีพิเศษตรงที่ซ่อนเร้นนัยยะทางการเมืองและบริบททางสังคมในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ๆ เท่านั้น


ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ยังมีคำถามเชิงวิจัยจิตวิทยาสังคมโดยอาศัยประสบการณ์ สามัญสำนึก ความคิดเห็นจากประสบการณ์เดิมของผู้ทำแบบสอบถามในหัวข้อ "จริงป่ะ! 20 เรื่องที่ทุกคนต้องเคยทำชัวร์ ๆ"
เคยไหม ที่ชั่วอึดใจหนึ่งขณะที่คุณกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ ในหัวก็พาลคิดเรื่อยเปื่อยไปว่า "เอ จะมีใครเคยทำอย่างนี้เหมือนเราบ้างไหมนะ" ...ไม่ว่าคุณจะกำลังก้มมองผลงานตัวเองในคอห่านก่อนจะกดชักโครก แอบเกาก้นในที่สาธารณะ สวมถุงเท้าไม่เข้าคู่กัน ฯลฯ เราเองก็เคยนั่งนึกถึงเรื่องแบบนี้อยู่เหมือนกันว่าจะมีอะไรบ้างที่ทุก ๆ ต้องเคยทำมาแล้วอย่างน้อยครั้งหนึ่งชัวร์ ๆ พอดีได้เจอบล็อกที่แสนจะตรงใจอย่าง things-we-all-do ที่รวบรวมเรื่องราวหลาย ๆ เรื่องที่คนส่วนใหญ่ต้องเคยทำกันมาแล้วแน่นอน ก็เลยอยากจะเอามาแชร์กัน... เอ้า มาดูกันเลยว่ามีเรื่องอะไรกันบ้าง 


แค่เราเป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊ก ไม่ได้หมายความว่าในชีวิตจริงฉันจะชอบเธอหรอกนะ 

ดูรูปถ่ายของตัวเองตอน ป.3 พลางคิดว่า "นี่เราแต่งตัวบ้าบออะไรเนี่ย" 

ซื้อชุดชั้นในน่ารัก ๆ ทั้ง ๆ ไม่ได้คิดว่าจะให้ใครมาเห็นหรอก

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่มักจะใช้ครีมนวดหมดก่อนยาสระผมเสมอเลย

พูดติดปากว่า "กำลังไป" ทั้ง ๆ ที่จริง ยังไม่ได้ออกจากบ้านด้วยซ้ำ

เวลาจะลอกข้อสอบทีไร เป็นต้องได้สบสายตากับอาจารย์ทุกทีเลยสิน่า

เวลาเดินช้าเสมอ ยามที่คุณกำลังรอคอยอะไรสักอย่าง

กดยอมรับ "เงื่อนไขและข้อตกลง" ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้อ่านมันด้วยซ้ำ

คุณคิดว่าเขาหรือเธอคงคิดอะไร ๆ กับคุณชัวร์.. 
จนกระทั่งคุณพบว่าเขา/เธอก็คุยกับคนอื่น ๆ แบบนี้เหมือนกัน (โอ๊ย เศร้า T_T)

คุณยิ้มให้กับโทรศัพท์ตอนที่ส่งข้อความให้ใครคนนั้น

สิ่งแรกที่คุณทำยามตื่นนอนคือ "ฉี่"

รู้สึกหัวใจหล่นวูบทุกครั้ง เวลามีคนมาพูดกับคุณว่า "ขอคุยด้วยหน่อยสิ" 

คุณพูดว่า "ฉันสบายดี" ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นสักนิดเลย

ถ่ายรูปตัวเองประมาณล้านช็อต 
แล้วลงท้ายด้วยการลบทิ้งจนเหลือรูปที่หน้าตาดีที่สุดแค่ใบเดียว

ตอนเป็นเด็กคุณเคยนั่งมองเม็ดฝนค่อย ๆ ไหลลงที่กระจกหน้าต่าง 
เพื่อดูว่า เม็ดไหนนะจะได้ที่หนึ่ง :)

ทนฟังเรื่องปั้นน้ำเป็นตัวของคนอื่น เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่าความจริงมันเป็นอย่างไร

รู้สึกพลาดจริง ๆ ที่ไปกดไลค์สเตตัสของใครเข้า 
เมื่อถูกถล่มด้วยกองทัพการแจ้งเตือนอัพเดทคอมเมนต์จากบรรดาเพื่อนฝูงของเขา

เหวี่ยงโทรศัพท์ทิ้งเพราะโมโห 
ก่อนจะถลาไปหยิบขึ้นมาดูว่ามันพังหรือเปล่าในอึดใจถัดมา ^^"

ฟังเสียงตัวเองจากวิดีโอที่อัดไว้ พลางคิดว่า "เฮ้ย เสียงเราเป็นงี้จริงดิ !?"

ข่มตานอนไม่ลงเป็นเวลาหนึ่งคืนถ้วน และคิดว่าตัวเองต้องเป็นโรคนอนไม่หลับแหงม ๆ 


นี่จึงเป็นที่มาของเหล่าสมาคมในเฟสบุ๊คเพื่อเป็นช่องทางใช้ถ่ายทอดความรู้สึก ประสบการณ์ ความคิด ความในใจ ส่งต่อให้กับผู้อื่นที่มีความรู้สึกเหล่านั้น ๆ คล้ายๆกันหรืออาจจะเคยเกิดขึ้นกับคนเหล่านั้น และส่วนหนึ่งเพื่อหาเครือข่ายของตนเอง สร้างกลุ่มที่รักและชอบในสิ่งเดียวกัน เหมือนๆกัน และเพื่อให้อีกฝ่ายอมรับให้อีกฝ่ายเข้าเป็นส่วนหนึ่งในสังคมของตน ดังนั้น จึงเกิดกลุ่มก้อนขึ้นมารวมตัวกันเพื่อเรียกร้อง นำเสนอสิ่งที่เป็นแนวทาง ความคิดหลักหนึ่งเดียวของกลุ่มนั้น ๆ เช่น มั่นใจคนไทยเกิน 1 ล้าน...จนกระทั่งมีเพ็จหนึ่งได้กำเนิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความใคร่อยากรู้ถึงกลุ่มมั่นใจคนไทยว่าคืออะไรและต้องการอะไร จึงเป็นที่มาของชื่อเพจ มั่นใจพ่องมั่นใจแม่งอะไรกันนักหนา https://www.facebook.com/munjaipong


No comments:

Post a Comment